วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ก่อนเอาวัสดุเพาะขึ้นชั้น


วันนี้ว่างขณะกำลังรอแฟนเข้าเวรที่คลินิอยู่ก็เลยมีเวลาอัพเดทเรื่องเห็ดฟางนะครับ ครั้งที่แล้วผมพูดถึงเรื่อง การหมักวัสดุเพาะเห็ดฟางนะครับ พรุ่งนี้ (6 กรกฎาคม 2556) ผมจะเอาเห็ดขึ้นชั้นนะครับสำหรับใครที่สนใจเรื่องการเพาะเห็ดฟางมาดูได้นะครับ วันนี้ผมเลยถือโอกาสพูดเรื่องการทำความสะอาดโรงเรือนก่อนเลย เพราะส่วนใหญ่ไม่มีใครพูดถึง ทั้ง ๆ ที่การล้างโรงเรือนมีผลต่อผลผลิตในรุ่นต่อไป ตัวผมเองตอนทำใหม่ ๆ ก็ไม่เข้าใจปัญหา มีวิธีการดังนี้ครับ
         อย่างที่เคยกล่าวในตอนต้น ๆ อาชีพการเกษตรนั้นจะต้องสะอาด ไม่เช่นนั้นจะสะสมโรคและแมลง อีกอย่างเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด สามารถสร้างเกาะป้องกันตัวเอง ให้ทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อดำรงสายพันธุ์ของตัวมันเอง บางชนิดสามารถรอฟักตัวได้เป็น 100 ปี บางชนิดทนอุณหภูมิสูงได้มากกว่า 120 องศา เพราะฉะนั้นการอบไอน้ำในโรงเรือนเป็นแค่เพียง ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้บางชนิด แต่บางชนิดจะอ่อนแอลงไม่สามารถเติบโตแข่งขันกับเห็ดฟาง สาเหตุที่เกษตรกรส่วนใหญ่ต้องทำการพักโรงเรือน เนื่องจากต้องการให้โรงเรือนแห้ง ไม่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อเขื้อโรค ทำให้การขยายตัวต่อไปเป็นไปได้น้อยลง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันยังคงมีตัวตนอยู่

วิธีปฏิบัติในการล้างโรงเรือน
1.ก่อนอื่นต้องทำการเปิดประตู หน้าต่างโรงเรือน ทุกด้านให้หมดก่อน ถ้าคุณสร้างโรงเรือนตามที่ผมบอกในตอนต้น (ตอนบอกให้สร้างโรงเรือนผมลืมบอกไปว่าต้องให้เปิดชายผ้าได้สูงอย่างน้อย 30 ซ.ม.) และเปิดชายผ้าทิ้งไว้

2.หลังจากเก็บวัสดุเพาะออกนอนโรงเรือนเรียบร้อยแล้ว ต้องทำการล้างน้ำทันที เพราะถ้าปล่อยให้แห้งแล้วจะล้างยากยิ่งขึ้น เกษตรกรส่วนใหญ่จะไม่ล้างเลย
3.การล้างให้ใส่ถุงมือผ้า ถ้าให้ดี 2 ชั้นเลยครับ ฉีดน้ำพร้อมกับเอามือที่สวมถุงมือลูบทุก ๆ ที่ ต้องไม่ให้มีเศษวัสดุ หรือคาบสกปรกค้างอยู่บนชั้นวาง ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่จะไม่ใส่ใจมากนัก ส่วนใหญ่จะมีวัสดุเพาะหลงเหลืออยู่พอสมควร

4.ฉีดน้ำล้างผนังโรงเรือนทุกด้านให้หมด
5.ให้กวาดเศษวัสดุที่อยู่ตามพื้นให้หมด ถ้าไม่ได้เทพื้นปูนก่อนทำการล้างชั้นต้องปูผ้าพลาสติก เวลากวาดจะทำงานง่ายขึ้น
6.คุณจะต้องกวาดเศษวัสดุเพาะ ที่อยู่รอบโรงเรือนให้หมด (หมายถึงด้านหลังชายผ้า)
7.กวาดเรียบร้อยแล้วให้ฉีดน้ำชั้นให้เปียกน้ำอีกครั้งแล้วใช้ปูนขาวก่อสร้าง (อย่างอื่นผมลองแล้วไม่ค่อยดี สู้ปูนขาวก่อสร้างไม่ได้ แพงกว่านิดหน่อย) สะบัดโปรยไปให้เป็นละอองเหนือชั้นแต่ละชั้นให้ทั่ว ในปูนขาวมีแคลเซียม ซึ่งมีสรรพคุณในการยังยั้งเชื้อราได้หลายชนิด อีกทั้งตัวมันมีความเป็นด่างเมื่อโดนน้ำจะลดความเป็นกรดของไม้ที่ทำชั้นวาง เป็นการป้องกันราและรักษาชั้นวางให้ใช้งานได้นานขึ้น

8.ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งจะนานแค่ไหน ให้สังเกตไม้ที่ทำชั้นวางแห้งสนิทเป็นใช้ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลมและความชื้นของอากาศ และลักษณะการก่อสร้างโรงเรือนเป็นสำคัญ
9.สุดท้ายก่อนนำวัสดุเพาะเข้าโรงเรือนให้ฉีดน้ำล้างปูนขาวอีกครั้ง ถ้ามีเห็ดไผ่ขึ้นบนชั้นไม่เป็นไรให้ใช้มือใส่ถุงมือลูบทิ้งไป
ถ้าทำดังนี้แล้ว โรงเรือนของคุณก็อยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้งานโดยไม่มีผลเสียใด ๆ

อนึงปกติในการทำการเกษตรทั่ว ๆ ไป ปกติจะมีการฉีดยาฆ่าเชื้อราด้วย โดยเฉพาะในสวนส้มและมะนาว มะละกอ มะเขือเทศ องุ่น และผลไม้เปลือกบาง ในการทำเกษตรชีวภาพ จะใช้ปูนขาวก่อสร้าง 1 ข้อนโต๊ะ ปูนแดงกินกับหมาก 2 ช้อนโต๊ะ ถ้ามีน้ำด้วยก็ตักเติมเพิ่มไปได้ ผสมน้ำยาจับใบ(ไม่ใช่เปียกใบ เป็นคนละอย่าง ถ้าเปียกใบราคาจะกูกกว่าจับใบเกือบเท่าตัว) เกลือแกง 2 ข้อนโต๊ะ น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเพื่อปัองกันเชื้อราและแบคทีเรีย ทุก 10-15 วันครั้ง ฉีดป้องกันนะครับ ถ้าเป็นโรคแล้วใช้ยาอะไรก็ฉีดแก้ไม่ได้ครับ ได้แค่บรรเทาหรือไม่ให้เป็นมากขึ้น อีกอย่างห้ามใช้ปนกับสารอื่น เพราะจะเข้มข้นหรือหักล้างฤทธิ์ยาตัวอื่น
ในพริก ถ้าใบหงิกให้เพิ่มปุ๋ยยูเรีย 10 ช้อนโต๊ะฉีดพ่น ใบจะร่วงหมดเพราะสารเข้มข้น จากนั้นจะแตกใบใหม่ สวยเหมือนเดิมครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น